ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ระดับ 93.8628
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.46 เยน จากระดับ 105.10 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9151 ฟรังก์ จากระดับ 0.9131 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3226 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3145 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1696 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1750 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2900 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3023 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7091 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7166 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากรัฐบาลอังกฤษประกาศยกระดับการเตือนภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงลอนดอนและเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งส่งผลให้มีการปิดสถานประกอบการบางประเภท โดยขณะนี้ อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวนมากกว่า 657,000 ราย และมีผู้เสียชีวิต 43,245 ราย
ทางด้านรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศเคอร์ฟิวในกรุงปารีสและ 8 เมืองใหญ่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบ 2 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ และจะต่อเนื่องไปเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสกล่าวว่า "ฝรั่งเศสได้เข้าสู่ระยะการแพร่ระบาดระลอก 2 ของโรคโควิด-19 แล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 20,000 รายต่อวัน ตอนนี้เราเข้าสู่ช่วงเวลาที่จะต้องรับมือกับไวรัสที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ"
ขณะที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน โดยแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศความพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินในมาตรการดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้ทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ แต่นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของปธน.ทรัมป์ โดยเขาเห็นว่าวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์มีความเหมาะสมต่อการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 898,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 830,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 845,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน