ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.37% สู่ระดับ 92.9520
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.87 เยน จากระดับ 104.53 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9072 ฟรังก์ จากระดับ 0.9046 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3142 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3130 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1817 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1860 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3077 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3157 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7112 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7126 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 787,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 842,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 1 ล้านรายเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้ว หลังจากพุ่งเหนือระดับ 1 ล้านรายเป็นเวลา 5 เดือน นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดีดตัวขึ้น 9.5% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 2.4% ในเดือนส.ค.