แอนดริว ทิลตัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียแปซิฟิกของโกลด์แมน แซคส์คาดว่า รัฐสภาสหรัฐที่ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากแบบเด็ดขาดหลังจากการเลือกตั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อาจทำให้สกุลเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ทั้งนี้ สหรัฐยังไม่มีการสรุปผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่สำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์คาดว่า นายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี, พรรคเดโมแครตยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยพรรคเดโมแครตจำเป็นต้องได้ชัยชนะในทั้งสองสภาเพื่อให้สามารถผ่านการโหวตรับรองนางคามาลา แฮร์ริสเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ด้วย
นายทิลตันเปิดเผยในรายการ "Street Signs Asia" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า การที่รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาแบบเบ็ดเสร็จนั้น อาจจะทำให้สหรัฐไม่สามารถผลักมาตรการกระตุ้นด้านการคลังขนานใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายทิลตันคาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มากนัก ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนและอินเดียนั้น จะปรับตัวขึ้นสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
ตลาดพันธบัตรในเอเชียก็จะยังคงน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนได้แห่ซื้อพันธบัตรจีนโดยมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
"เราจะเห็นเงินทุนไหลเข้า และจะหนุนเงินเอเชียให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ดังนั้น เราค่อนข้างมั่นใจว่า สกุลเงินเอเชียจะแข็งค่าขึ้นในปีหน้า นำโดยเงินหยวนของจีน" นายทิลตันระบุ