ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งจากการที่สภาคองเกรสสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 00.32 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.33% สู่ระดับ 104.21 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.28% สู่ระดับ 123.58 เยน และขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.186 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.18% สู่ระดับ 92.47
สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 11.5 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 252,000 ราย
บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94%
ทั้งนี้ โมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย
ทางด้านไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี เปิดเผยผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนก.ย.
การชะลอตัวของยอดค้าปลีกในเดือนต.ค. ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย.