นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บิตคอยน์มีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 74,000 ดอลลาร์ในปีหน้า หลังจากพุ่งขึ้นทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาได้ดีที่สุดในปีนี้ โดยทะยานขึ้นกว่า 166% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่วนในเดือนนี้ราคาของบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นเกือบ 40% โดยบิตคอยน์ได้แรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินหรือฟินเทค ซึ่งรวมถึง PayPal และ Square ที่หันมาทำธุรกรรมบิตคอยน์
นายทอดด์ กอร์ดอน ผู้ก่อตั้งบริษัท TradingAnalysis.com เปิดเผยกับรายการ "Trading Nation" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า นับเป็นเรื่องยากที่จะประเมินมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากบิตคอยน์มีจำนวนจำกัดในขณะนี้ และคาดว่าจะมีการผลิตบิตคอยน์เพียง 21 ล้านหน่วยเท่านั้น
ขณะที่นักวิเคราะห์รายอื่นๆ มองว่า การดีดตัวของบิตคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค โดย PayPal ยักษ์ใหญ่ฟินเทค ประกาศว่า ทางบริษัทจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ และในช่วงต้นปีหน้า โดย PayPal มีแผนที่จะให้ลูกค้าใช้สกุลเงินคริปโตในการซื้อสินค้าจากเครือข่ายร้านค้าปลีกจำนวน 26 ล้านรายของทางบริษัท
ทางด้าน Square ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคของสหรัฐเปิดเผยในเดือนที่แล้วว่า ทางบริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์เป็นมูลค่าถึง 50 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ Square ได้เปิดให้บริการสกุลเงินคริปโตสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชั่น Cash ของทางบริษัท
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก