บิตคอยน์ร่วงลงถึง 13% แตะที่ระดับ 16,317 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 วัน โดยเป็นการปรับฐานลงอย่างมากหลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 19,521 ดอลลาร์วานนี้
ทั้งนี้ บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาได้ดีที่สุดในปีนี้ โดยทะยานขึ้นกว่า 358.6% เมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในปีนี้ แต่ยังไม่สามารถทุบสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อเดือนธ.ค. 2560 ที่ 19,666 ดอลลาร์
โดยการพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ได้แรงหนุนจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ความสนใจในสินทรัพย์ที่ต้านทานเงินเฟ้อ และการคาดการณ์ที่ว่าคริปโตเคอเรนซีจะได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง ขณะที่บรรดาบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน หรือฟินเทค ซึ่งรวมถึง PayPal และ Square ต่างหันมาทำธุรกรรมบิตคอยน์เช่นกัน
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก
การร่วงลงของบิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลขนาดเล็กกว่าอื่นๆ ร่วงลงตามไปด้วย รวมถึงอีเธอเรียม (ethereum) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากบิตคอยน์ ร่วงลง 13% และสกุลเงินดิจิทัลอันดับสามอย่าง XRP ดิ่งลงมากกว่า 20% โดยทั้งสองสกุลเงินมักเคลื่อนไหวตามบิตคอยน์