ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลข้อมูลแรงงานที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% แตะที่ 91.1153 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8960 ฟรังก์ จากระดับ 0.9006 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2921 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2936 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 104.55 เยน จากระดับ 104.40 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2099 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2047 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3359 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3416 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7402 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7364 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 307,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 475,000 ตำแหน่ง โดยการจ้างงานที่ชะลอตัวในเดือนพ.ย.ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา เร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อเสนอของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เพื่อส่งความช่วยเหลือให้กับชาวอเมริกันได้ก่อนสิ้นปีนี้
ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามข้อเสนอของนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากมาตรการดังกล่าวสามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
"ท่านประธานาธิบดีจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คุณแมคคอนเนลล์เสนอเมื่อวานนี้ และเราจะพยายามสานต่อจากข้อเสนอดังกล่าว" นายมนูชินกล่าว
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนต.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.