ดอลลาร์ปรับตัวแคบเทียบสกุลเงินหลัก จับตาวัคซีน,มาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 9, 2020 22:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ปรับตัวแคบเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ณ เวลา 22.34 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.05% สู่ระดับ 104.20 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.008% สู่ระดับ 126.02 เยน และอ่อนค่า 0.07% สู่ระดับ 1.209 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.02% สู่ระดับ 90.95

ทั้งนี้ อังกฤษได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้แก่ประชาชนวานนี้ โดยเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ และบุคลากรทางการแพทย์

การฉีดวัคซีนดังกล่าวได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศต่างๆ

นักลงทุนยังคงจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์)

นายโจ แมนชิน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถเห็นพ้องกันในวันนี้เกี่ยวกับรายละเอียดส่วนใหญ่ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

"ขณะนี้สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็ต้องการบรรลุข้อตกลง ซึ่งเราคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จ 90% ในวันนี้" นายแมนชินกล่าว

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แสดงความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์

นางเพโลซีและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.16 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดสรรเงินช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ ในขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงท่าทีคัดค้าน

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ