ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในสหรัฐกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.17% สู่ระดับ 90.9726
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8894 ฟรังก์ จากระดับ 0.8870 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2771 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2744 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.00 เยน จากระดับ 104.18 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2114 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2133 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3225 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3290 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7536 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7527 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะยืดเยื้อไปจนถึงช่วงคริสต์มาส
ปอนด์อ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์และยูโร ท่ามกลางความกังวลที่ว่าอังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ว่า มีแนวโน้มเป็นอย่างมากที่อังกฤษจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับ EU ซึ่งจะทำให้อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง