ดอลลาร์ร่วงใกล้นิวโลว์ 2 ปี นักลงทุนเทขายสกุลเงินปลอดภัย หลังคืบหน้าวัคซีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 16, 2020 00:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีในวันนี้ โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง และเทขายดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย หลังมีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ
ณ เวลา 23.38 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.33% สู่ระดับ 103.68 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.26% สู่ระดับ 125.99 เยน และขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.215 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.2% สู่ระดับ 90.53 หลังจากดิ่งลงแตะ 90.419 ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2561

ขณะนี้ สหรัฐ อังกฤษ บาห์เรน แคนาดา และสิงคโปร์ได้ให้การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์แล้ว โดยอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐและแคนาดาได้เริ่มฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้

รายงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ระบุว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นามีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย และเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการอนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉิน

รายงานดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า FDA จะให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการต่อวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาในวันศุกร์นี้

คณะกรรมการที่ปรึกษาของ FDA ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก จะจัดการประชุมในวันพฤหัสบดีเพื่อพิจารณาและลงมติต่อการอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของโมเดอร์นาเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ทางคณะกรรมการได้ให้การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่ง FDA ก็ได้ให้การอนุมัติอย่างเป็นทางการในวันศุกร์

โมเดอร์นาระบุว่า จากการทดลองกับอาสาสมัคร 30,000 ราย พบว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 94.5% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

ทางด้านสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้เห็นพ้องที่จะแยกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ออกเป็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส โดยฉบับแรกจะมีวงเงิน 7.48 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผู้ที่ตกงานและธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่อีกฉบับหนึ่งจะมีวงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือมลรัฐต่างๆ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้และพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ขณะที่เฟดซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ