ดอลลาร์แข็งค่าในวันนี้ โดยฟื้นตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวานนี้
ณ เวลา 00.28 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.24% สู่ระดับ 103.35 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.016% สู่ระดับ 126.44 เยน และร่วงลง 0.26% สู่ระดับ 1.223 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.26% สู่ระดับ 90.06
ถึงแม้ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่เมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์ ดอลลาร์ดิ่งลง 1% โดยถูกกดดันจากหลายปัจจัย ซึ่งได้แก่ ความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ, การที่อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงการค้า รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านทางการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ปอนด์อ่อนค่าเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าอังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าวิตก และขณะนี้มีแนวโน้มอย่างมากว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เว้นแต่ EU จะเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตน
ส่วนนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า โอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงมีน้อยกว่า 50%
ทางด้านนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU กล่าวว่า การเจรจามีความคืบหน้า แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในบางประเด็น โดยเฉพาะในด้านการประมง
นายจอห์นสันเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อังกฤษพร้อมที่จะยุติการเจรจาการค้ากับ EU และจะแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง