ปอนด์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 1% เทียบดอลลาร์ ท่ามกลางความหวังที่ว่าอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า
นอกจากนี้ ปอนด์ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ฝรั่งเศสยอมยกเลิกมาตรการปิดกั้นชายแดนที่ติดกับอังกฤษเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ในอังกฤษ ส่งผลให้ขบวนรถบรรทุกสินค้าจากอังกฤษสามารถข้ามไปยังฝรั่งเศส
ณ เวลา 22.34 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ดีดตัว 1.21% สู่ระดับ 1.352 ดอลลาร์ และแข็งค่า 0.8% สู่ระดับ 0.903 เทียบยูโร
ปอนด์แข็งค่าในวันนี้ หลังจากที่อ่อนค่าลง 3 วันติดต่อกัน โดยปอนด์ดีดตัวขึ้นจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอังกฤษและ EU ในการทำข้อตกลงการค้าที่จะมีการบังคับใช้หลังจากอังกฤษแยกตัวจาก EU (Brexit) ในช่วงสิ้นปีนี้
"มีความเชื่อกันว่าอังกฤษและ EU ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า" นายเครก เออร์แลม นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าว
แหล่งข่าวจากวงการทูตระบุว่า สมาชิก 27 ชาติของ EU ได้เริ่มเตรียมการสำหรับกระบวนการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับอังกฤษเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564
ข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า ทั้งสองฝ่ายใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าที่จะมีการบังคับใช้หลังจากอังกฤษแยกตัวจาก EU ในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ นักการทูตจากชาติสมาชิกของ EU ยังได้รับแจ้งจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU เพื่อให้เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประชุมในวันพรุ่งนี้ หากอังกฤษและ EU สามารถบรรลุข้อตกลง
"ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว โดยอยู่ที่ว่าจะมีการประกาศในวันนี้หรือพรุ่งนี้" นักการทูตรายหนึ่งกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายมิเชล มาร์ติน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวว่า อังกฤษและ EU ยังคงมีช่องว่างในการเจรจาเรื่องการประมง แต่เขาเชื่อว่าการเจรจามีความคืบหน้าเพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงการค้า
"ถ้าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่ยุโรปก็จะทำการร่างข้อตกลงในช่วงคริสต์มาส โดยผมคิดว่าการเจรจามีความคืบหน้าเพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง ซึ่งหากการเจรจาประสบความล้มเหลว ก็จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และซ้ำเติมวิกฤตการณ์โควิด-19" นายมาร์ตินกล่าว