ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐมีมติอนุมัติการเพิ่มวงเงินในเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ณ เวลา 00.05 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.28% สู่ระดับ 103.49 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.016% สู่ระดับ 126.75 เยน และดีดตัวขึ้น 0.29% สู่ระดับ 1.225 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.42% สู่ระดับ 89.96 ใกล้ระดับ 89.723 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2561
การซื้อเป็นไปอย่างเบาบางในวันนี้ ขณะเข้าใกล้วันหยุดในช่วงสิ้นปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดอลลาร์จะยังคงอ่อนค่าไปจนถึงปี 2564
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกฎหมายดังกล่าวรวมถึงการจ่ายเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 600 ดอลลาร์
การลงนามของปธน.ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เขาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มวงเงินในการจ่ายเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ แทนที่จะเป็น 600 ดอลลาร์ ส่งผลให้สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐจัดการประชุมวานนี้ และมีมติอนุมัติการเพิ่มวงเงินในเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็น 2,000 ดอลลาร์ จากเดิม 600 ดอลลาร์ และได้ส่งเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา