ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าอัตราเงินเฟ้อแตะระดับ 2%
ณ เวลา 00.44 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.2% สู่ระดับ 103.64 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.19% สู่ระดับ 126.01 เยน และอ่อนค่า 0.008% สู่ระดับ 1.216 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.18% สู่ระดับ 90.20
นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% และจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% เป็นเวลา 1 ปี
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่สื่อรายงานว่าอาจมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ นายไบเดนเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในวันนี้เพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายไบเดนกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์
แหล่งข่าวระบุว่า นายไบเดนจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 965,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 140,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว
คาดว่านายไบเดนจะเร่งขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว หลังจากที่เขาเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. ขณะที่พรรคเดโมแครตสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากที่ถูกขัดขวางก่อนหน้านี้จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นายไบเดนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาสนับสนุนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์
นายไบเดนกล่าวว่า การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี