ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซา
ณ เวลา 00.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 0.47% สู่ระดับ 90.67 ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.53% สู่ระดับ 125.49 เยน และร่วงลง 0.51% สู่ระดับ 1.209 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มดีดตัวขึ้น 0.7% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติปรับตัวดีที่สุดในรอบ 11 สัปดาห์
ยอดค้าปลีกที่ซบเซาบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และหันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะทรงตัวในเดือนธ.ค.
การร่วงลงของยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย.