ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.59% แตะที่ 90.7700 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 103.86 เยน จากระดับ 103.79 เยน, ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8910 ฟรังก์ จากระดับ 0.8877 ฟรังก์ และดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2728 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2637 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2079 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2155 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3581 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3681 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7709 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7783 ดอลลาร์สหรัฐ
บรรดานักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพ.ย. และยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย.
ยอดค้าปลีกที่ซบเซาบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และหันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์รายงานว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 23.4 ล้านรายแล้ว ณ ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. ขณะที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 390,000 ราย