ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากความหวังในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ลดลง 0.26% สู่ระดับ 90.5100 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8887 ฟรังก์ จากระดับ 0.8907 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2731 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2752 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 103.87 เยน จากระดับ 103.68 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2125 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2078 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3631 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3586 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7680 ดอลลาร์สหรัฐ
นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่นำเสนอโดยนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าที่จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงด้านหนี้สิน พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการเพิ่มขึ้นอีก มิฉะนั้นเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับการถดถอยที่ยาวนานและรุนแรงกว่า และอาจได้รับความเสียหายในระยะยาว
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา นายไบเดนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชื่อว่า "American Rescue Plan" วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, การเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์ โดยจะขยายโครงการช่วยเหลือดังกล่าวไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.ปีนี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.