ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19 และการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 90.2400 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 103.83 เยน จากระดับ 103.51 เยน, ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8860 ฟรังก์ จากระดับ 0.8852 ฟรังก์ และดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2728 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2628 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2166 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2159 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3681 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3725 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7717 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7761 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย หลังจากที่ตลาดมีความวิตกว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
ทั้งนี้ สมาชิกสภาคองเกรสหลายรายทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน
ท่าทีดังกล่าวของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอาจกดดันให้ปธน.ไบเดนจะต้องลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ