ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) ขานรับความข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.19% แตะที่ 91.0406 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.81 เยน จากระดับ 106.61 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9151 ฟรังก์ จากระดับ 0.9090 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2652 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2703 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2046 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2078 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3922 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3945 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7774 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7711 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.521 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2545 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.8%
ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 58.9 จากระดับ 58.7 ในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ การที่สหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และความคืบหน้าในการออกมาตรการเศรษฐกิจ ยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดว่า กระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และดุลการค้าเดือนม.ค.