ดอลลาร์ร่วงจากนิวไฮ 3 เดือนครึ่ง หลังบอนด์ยีลด์เริ่มมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 9, 2021 22:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ

ณ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.13% สู่ระดับ 108.71 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.32% สู่ระดับ 129.33 เยน และดีดตัวขึ้น 0.45% สู่ระดับ 1.190 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.33% สู่ระดับ 92.0

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.528% ในวันนี้ หลังจากพุ่งทะลุ 1.6% เมื่อวานนี้

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนพากันถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้นมากกว่า 2% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอาจทำการพิจารณาและลงมติต่อร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างเร็วที่สุดในวันนี้ หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอาจมีการลงมติในวันพรุ่งนี้

"ขณะนี้เป็นเรื่องของเอกสารเท่านั้น และเราจะมีการลงมติโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นางแคเธอรีน คล้าก ผู้ช่วยประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าว

ก่อนหน้านี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาฯอาจพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในเช้าวันพรุ่งนี้เป็นอย่างช้าที่สุด

หากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีทรัพยากรที่เพียงพอในการผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจะทำให้การจ้างงานของสหรัฐกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในปีหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค. เพื่อดูท่าทีของเฟดต่อแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ