ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นไปตามคาดและอ่อนแอเกินคาด
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 92.7704 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.68 เยน จากระดับ 109.10 เยน, ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9390 ฟรังก์ และดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2594 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2610 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1789 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1778 ดอลลาร์, ปอนด์แข็งค่าแตะระดับ 1.3783 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3742 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7620 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7583 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจรายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. และดัชนี PCE พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ลดลง 1.0% ในเดือนก.พ. หลังจากดีดตัวขึ้น 3.4% ในเดือนม.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคล ร่วงลง 7.1% ในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งขึ้น 10.1% ในเดือนม.ค. โดยบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ อาจลดลง 0.7% ในเดือนก.พ. และรายได้ส่วนบุคคล อาจร่วงลง 7.3%