ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำมุมมองที่ว่า การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะดำเนินไปเพียงชั่วคราว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.53% สู่ระดับ 91.0709 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.09 เยน จากระดับ 108.79 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9145 ฟรังก์ จากระดับ 0.9198 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2531 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2501 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2039 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1978 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3989 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3833 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7760 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7732 ดอลลาร์สหรัฐ
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะดำเนินไปเพียงชั่วคราว ซึ่งเป็นคำกล่าวที่สะท้อนความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย รวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดี โดยมีการคาดการณ์ว่า ECB อาจเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตร ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ รวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค.จากเฟดชิคาโก, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมารฺ์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.