ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.05% สู่ระดับ 91.33
นอกจากนี้ ยูโรปรับตัวลง 0.16% สู่ระดับ 131.12 เยน และร่วงลง 0.14% สู่ระดับ 1.20 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ขยับลง 0.02% สู่ระดับ 109.30 เยน
การซื้อขายยังคงซบเซาในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดในจีนและญี่ปุ่น
ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ดี นางเยลเลนกล่าวชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ตนไม่ได้คาดการณ์หรือให้คำแนะนำว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คำกล่าวก่อนหน้านี้ของนางเยลเลนส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงวานนี้
ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 742,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 800,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนมี.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 565,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานเพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่ง
ภาคบริการมีการจ้างงาน 636,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงาน 106,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,000,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.8%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 647,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.0% จากระดับ 6.2% ในเดือนก.พ.