ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 26, 2021 07:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 1.6% นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยฉุดค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงด้วย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% แตะที่ 89.6437 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.71 เยน จากระดับ 108.78 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8951 ฟรังก์ จากระดับ 0.8968 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2060 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2046 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2253 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2213 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.4148 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4158 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7755 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.577% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.273%

ปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงนั้น มาจากการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ หลังจากนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวสนับสนุนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของเฟด แม้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น

นายอีแวนส์กล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อก่อนหน้านี้จะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทะยานขึ้นแบบไม่พึงประสงค์ตามที่นักวิเคราะห์หลายคนได้เคยเตือนไว้ ขณะเดียวกันเขาเน้นย้ำถึงการสนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษของเฟด

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ด้วย โดยผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 117.2 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 117.5 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 119.2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความวิตกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการชะลอตัวของตลาดแรงงาน

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 5.9% สู่ระดับ 863,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 970,000 ยูนิต โดยยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่สูงขึ้น ขณะที่สต็อกบ้านในตลาดลดลง นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE นับเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ