ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวแคบในวันนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 00.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.62% สู่ระดับ 109.82 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.65% สู่ระดับ 133.90 เยน และขยับขึ้น 0.02% สู่ระดับ 1.219 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.01% สู่ระดับ 90.03
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนเม.ย.ในวันพรุ่งนี้
นักลงทุนจับตาดัชนีดังกล่าว เนื่องจากดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ถือเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE พื้นฐานจะพุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 1.8% ในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของดัชนี PCE พื้นฐานอาจส่งผลให้เฟดปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 38,000 ราย สู่ระดับ 406,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ราย และต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 444,000 ราย
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 96,000 ราย สู่ระดับ 3.64 ล้านราย
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะเปิดเผยงบประมาณประจำปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยจะประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจะเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นิวยอร์กไทมส์ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลของปธน.ไบเดนจะเพิ่มวงเงินในงบประมาณขึ้นสู่ระดับ 8.2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2574
นอกจากนี้ รัฐบาลจะประกาศเพิ่มอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาเพื่อหารายได้มาชดเชยรายจ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดว่ารัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณลดลงนับตั้งแต่ปี 2573