ดอลลาร์แข็งค่าในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และบ่งชี้การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนทำการปรับพอร์ตในช่วงสิ้นเดือน
ตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.เนื่องในวันทหารผ่านศึก
ณ เวลา 21.21 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.16% สู่ระดับ 109.98 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.05% สู่ระดับ 133.80 เยน และร่วงลง 0.23% สู่ระดับ 1.216 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.29% สู่ระดับ 90.23
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากดิ่งลง 3% นับตั้งแต่เดือนมี.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 0.5% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พุ่งขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 2.3% ในเดือนมี.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 0.4% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐาน พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 1.9% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 33.4% ในไตรมาส 3/2563 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือมากกว่า 70 ปี จากการที่สหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมีการเปิดเศรษฐกิจ หลังจากหดตัว 31.4% ในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงเป็นประวัติการณ์ และหดตัว 5% ในไตรมาส 1/2563 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากกว่า 7.0% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากหดตัว 3.5% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในวันนี้
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะเปิดเผยงบประมาณประจำปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยจะประกอบด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจะเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งช่วยเหลือภาคครัวเรือนสหรัฐเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19