ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมกลางเดือนนี้
ณ เวลา 21.08 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.08% สู่ระดับ 109.40 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.19% สู่ระดับ 133.51 เยน และดีดตัวขึ้น 0.28% สู่ระดับ 1.221 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.18% สู่ระดับ 89.91
การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงาในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ ECB และการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551
นอกจากนี้ คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 3.0% ในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ของสหรัฐดีดตัวขึ้นสูงเกินคาดในเดือนเม.ย. และหากดัชนียังคงปรับตัวอย่างร้อนแรงในเดือนพ.ค. ก็อาจทำให้เฟดส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิ.ย.
นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI ประจำเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน มีสาเหตุจากการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนการพุ่งขึ้นของดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี มีสาเหตุจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในเดือนเม.ย.2563 ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจะทำให้ตัวเลขดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี ถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงต่อไปอีกหลายเดือน เนื่องจากมีการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าที่ต่ำผิดปกติในปี 2563