ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ หลังดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนวานนี้ โดยดอลลาร์ถูกกดดันจากการแข็งค่าของยูโร หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับเป้าหมายเงินเฟ้อในวันนี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกมากกว่าที่คาดไว้
ณ เวลา 23.48 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.75% สู่ระดับ 109.81 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.3% สู่ระดับ 130.03 เยน และดีดตัวขึ้น 0.43% สู่ระดับ 1.184 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.26% สู่ระดับ 92.40
ทั้งนี้ ECB ประกาศปรับเป้าหมายเงินเฟ้อในวันนี้ พร้อมกับเปิดเผยบทบาทใหม่ของทางธนาคารในการร่วมมือแก้ไขปัญหาโลกร้อน ซึ่งถือเป็นการยกเครื่องนโยบายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 23 ปีของการก่อตั้ง ECB
ECB เปิดเผยว่า ทางธนาคารจะเปลี่ยนแปลงเป้าหมายเงินเฟ้อจากเดิมที่กำหนดให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2%" โดยปรับเป็น "อยู่ที่ระดับ 2%" แต่ ECB จะใช้ความยืดหยุ่น โดยจะอนุญาตให้เงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สามารถดีดตัวขึ้นสูงกว่า 2% หากมีความจำเป็น
ECB ระบุว่า เป้าหมายเงินเฟ้อเดิมที่ระบุให้เงินเฟ้อ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกินระดับ 2%" ได้สร้างความรู้สึกที่ว่า ECB มีความกังวลต่อการที่เงินเฟ้ออยู่สูงกว่าเป้าหมาย มากกว่ากังวลต่อการที่เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ ECB ได้ข้อสรุปในวันนี้ว่า การขยายตัวของราคาทั้งอยู่เหนือและอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์
อย่างไรก็ดี ECB ชี้แจงว่า ภายใต้บางสถานการณ์ที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายการเงินอย่างเข้มข้นและอย่างต่อเนื่อง เงินเฟ้อสามารถดีดตัวขึ้นชั่วคราวเหนือระดับเป้าหมาย
นอกจากนี้ ECB ยังแสดงความไม่พอใจต่อการจัดทำดัชนี CPI ของทางสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งได้งดเว้นการนำค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านหลายรายการเข้ารวมในการคำนวณดัชนี แต่ ECB ระบุว่าการแก้ไขการคำนวณดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาหลายปี ซึ่งกรรมการ ECB จะมองหาดัชนีอื่นเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อต่อไป
ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะดำเนินการมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ โดยจะรวมปัจจัยดังกล่าวในการดำเนินนโยบายการเงินที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผย, การประเมินความเสี่ยง, การกำหนดกรอบของหลักประกัน และการซื้อสินทรัพย์ในภาคเอกชน โดย ECB จะเริ่มเปิดเผยโครงการซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศภายในไตรมาสแรกของปี 2566
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 373,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 371,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 350,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 3.34 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 3.44 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 เช่นกัน