ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรเร่งปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ณ เวลา 23.28 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.24% สู่ระดับ 109.72 เยน ขณะที่ยูโรขยับขึ้น 0.01% สู่ระดับ 130.13 เยน และร่วงลง 0.22% สู่ระดับ 1.186 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.29% สู่ระดับ 92.13
ทั้งนี้ นายบูลลาร์ดกล่าวว่า เฟดควรเริ่มปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
นอกจากนี้ นายบูลลาร์ดกล่าวว่า เฟดควรปรับลดวงเงิน QE อย่างรวดเร็ว เพื่อให้โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ยุติลงในช่วงต้นปี 2565 และปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีดังกล่าว
ปัจจุบัน เฟดซื้อตราสารหนี้ตามมาตรการ QE ในวงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังได้แรงหนุน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลสูงกว่าคาดในเดือนมิ.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.2%
ทั้งนี้ การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคลได้รับแรงหนุนจากการที่สหรัฐกลับมาเปิดเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19