ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขานรับถ้อยแถลงของนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้
ณ เวลา 19.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.09% สู่ระดับ 92.19 ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.12% สู่ระดับ 129.71 เยน และดีดตัวขึ้น 0.08% สู่ระดับ 1.185 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ขยับขึ้น 0.05% สู่ระดับ 109.52 เยน
ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว
"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว
คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ภายในเดือนต.ค.
ส่วนปอนด์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ ขานรับผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ณ เวลา 19.00 น.ตามเวลาไทย ปอนด์แข็งค่า 0.25% สู่ระดับ 1.392 ดอลลาร์ และดีดตัว 0.10% สู่ระดับ 0.851 เทียบยูโร
ทั้งนี้ BoE จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ โดย BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ (8-0) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ BoE มีมติ 7-1 ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ BoE ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% นับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ขณะที่ได้เพิ่มวงเงิน QE จากระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์นับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563
อย่างไรก็ดี ในแถลงการณ์วันนี้ BoE แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ BoE ได้ปรับเพิ่มประมาณการดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค สู่ระดับ 4.0% ในไตรมาส 4 ของปี 2564 และไตรมาส 1 ของปี 2565 สูงกว่าระดับ 2.5% ที่ประมาณการไว้ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ BoE ยังได้เปิดเผยแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE จากปัจจุบันที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของ BoE ระบุว่า BoE จะเริ่มปรับลดวงเงิน QE เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายแตะระดับ 0.5% โดย BoE จะไม่นำรายได้จากพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษที่ครบกำหนดอายุกลับมาลงทุนใหม่
นอกจากนี้ BoE จะเริ่มขายพันธบัตรที่ถือครองอยู่ออกไป เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายแตะระดับ 1.0%