ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 9 เดือนครึ่งในวันนี้ ขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ณ เวลา 22.05 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.08% สู่ระดับ 109.81 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.11% สู่ระดับ 128.23 เยน และขยับขึ้น 0.01% สู่ระดับ 1.168 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ บวก 0.06% สู่ระดับ 93.62
ดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มพุ่งขึ้น 1% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือน
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากที่รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในปีนี้
ปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว
ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางเข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ "Monetary Policy Framework Review" โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น "แนวโน้มเศรษฐกิจ"