ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังมีรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐชะลอลงในเดือนส.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.58% แตะที่ 92.9582 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.68 เยน จากระดับ 109.80 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9124 ฟรังก์ จากระดับ 0.9176 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2645 ดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2844 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1748 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1695 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3729 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3622 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7216 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7136 ดอลลาร์
ไอเอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 59.9 ในเดือนก.ค.
เมื่อแยกเป็นภาคส่วนพบว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้น ลดลงสู่ระดับ 61.2 ในเดือนส.ค. จากระดับ 63.4 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 62.5 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้น ลดลงสู่ระดับ 55.2 ในเดือนส.ค. จากระดับ 59.9 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 59.5
ทั้งนี้ ผลสำรวจดัชนี PMI ดังกล่าวบ่งชี้ว่า การขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐชะลอลงในเดือนส.ค.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนอุปทาน และการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.ค. หรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 5.99 ล้านยูนิต ซึ่งอยู่เหนือระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.83 ล้านยูนิต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ "Monetary Policy Framework Review" ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในการประชุมดังกล่าว