ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากวานนี้พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.
ณ เวลา 23.50 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.11% สู่ระดับ 109.27 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.12% สู่ระดับ 128.11 เยน และขยับขึ้น 0.01% สู่ระดับ 1.173 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.08% สู่ระดับ 93.20
ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในการซื้อขายวานนี้ โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้และพรุ่งนี้ โดยเฟดอาจประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ก่อนสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้มาถึงจุดที่ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนโยบายเฟดอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดวงเงิน QE ก่อนสิ้นปีนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัว
นายวิลเลียม ดัดลีย์ อดีตประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ระบุว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทรุดตัวลงวานนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ จะไม่ส่งผลให้เฟดเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการปรับลดวงเงิน QE
"เฟดจะไม่มีปฏิกริยาต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเพียงเล็กน้อย และเฟดจะไม่เลื่อนแผนการปรับลด QE" นายดัดลีย์กล่าว และคาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณในการประชุมสัปดาห์นี้ว่า เฟดจะทำการปรับลด QE ในการประชุมเดือนพ.ย.