ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 22.43 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.2% สู่ระดับ 113.69 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.11% สู่ระดับ 132.01 เยน และร่วงลง 0.3% สู่ระดับ 1.161 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.16% สู่ระดับ 93.79
สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ในวันพฤหัสบดี ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็จะช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางแคนาดาในสัปดาห์นี้ ขณะที่เฟดจะจัดการประชุมในวันที่ 2-3 พ.ย.
ปอนด์แข็งค่าเทียบดอลลาร์และยูโร ขานรับคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ณ เวลา 22.43 น.ตามเวลาไทย ปอนด์แข็งค่า 0.17% สู่ระดับ 1.378 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.44% สู่ระดับ 0.843 เทียบยูโร
นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะเป็นธนาคารกลางแห่งแรกในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. รวมทั้งจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อไปในปีหน้า หลังจากที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.15% ในเดือนพ.ย. และ 0.25% ในเดือนธ.ค. รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2565 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE พุ่งแตะระดับ 1.25%
นายเบลีย์ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
นายเบลีย์กล่าวว่า BoE จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ แม้เขาเชื่อว่าการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อในระยะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
นายเบลีย์คาดการณ์ว่าการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นต่อไป ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น
"นโยบายการเงินไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านอุปทาน ทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินการเมื่อพบความเสี่ยงต่อคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะกลาง" นายเบลีย์กล่าวในการเสวนาผ่านระบบออนไลน์ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มที่ปรึกษาที่เรียกว่า Group of 30
BoE คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในอังกฤษจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ BoE ถึง 2 เท่า ขณะที่อังกฤษทำการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอุปทาน และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19