ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนตัดสินใจเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.52% แตะที่ 96.5379 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.94 เยน จากระดับ 113.95 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9331 ฟรังก์ จากระดับ 0.9286 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2697 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2660 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1233 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3385 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3446 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7225 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7235 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากปธน.ไบเดนประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดเฝ้าจับตาว่าปธน.ไบเดนจะเสนอชื่อผู้ใด ระหว่างนายพาวเวล และนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ซึ่งเป็น 2 ตัวเก็งที่ในการเสนอชื่อให้เป็นประธานเฟดคนใหม่
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีในเดือนก.พ.2565 โดยเขาเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ.2561 หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีเปิดเผยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทางด้านออสเตรียและเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งแล้ว เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้น 0.8% สู่ระดับ 6.34 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 6.20 ล้านยูนิต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 2-3 พ.ย.