ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.75% แตะที่ 96.0468 ในวันศุกร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.13 เยน จากระดับ 115.36 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9217 ฟรังก์ จากระดับ 0.9357 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2783 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2648 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1313 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1209 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3335 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3321 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7185 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดทั่วโลกร่วงลงในวันศุกร์ หลังมีรายงานการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้
ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่พุ่งขึ้นนั้นได้ฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลงสู่ระดับ 1.479% ในวันศุกร์ จากระดับ 16.2% ในวันพุธ โดยตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
สกุลเงินของประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ร่วงลงในวันศุกร์ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก
บรรดานักลงทุนได้พากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ที่ชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งเป็นไวรัสที่อาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดการประชุมฉุกเฉินในวันศุกร์ และได้ประกาศว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ B.1.1.529 หรือ โอไมครอน (Omicron) นั้นเป็นไวรัสสายพันธุ์ที่น่าวิตก โดยไวรัสตัวใหม่นี้พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ รวมถึงในบอตสวานา และในกลุ่มนักเดินทางในฮ่องกงและอิสราเอล