ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่สดใส ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.03% แตะที่ 95.9723 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.06 เยน จากระดับ 114.97 เยน แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9138 ฟรังก์ จากระดับ 0.9148 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2744 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2795 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1326 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1340 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3509 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3485 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7255 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7250 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 198,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 205,000 ราย
ขณะที่ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 199,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2512
ส่วนเงินปอนด์ได้รับแรงหนุนจากรายงานของเนชั่นไวด์ซึ่งระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.0% จากเดือนพ.ย. ส่งผลให้ราคาบ้านตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2549 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในอังกฤษจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
นอกจากนี้ ราคาบ้านในเดือนธ.ค. ยังเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ขณะที่ราคาบ้านโดยเฉลี่ยสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 254,822 ปอนด์
นักลงทุนยังคงจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐน่าจะระบาดถึงจุดสูงสุดในปลายเดือนม.ค. เมื่อพิจารณาจากขนาดของประเทศและสัดส่วนการฉีดวัคซีน