ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่น่าผิดหวัง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากผลกระทบของโควิด-19
ณ เวลา 22.43 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.07% สู่ระดับ 115.74 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.31% สู่ระดับ 131.18 เยน และดีดตัวขึ้น 0.37% สู่ระดับ 1.133 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.37% สู่ระดับ 95.96
แม้ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงในวันนี้ แต่ก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 199,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 422,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากรายงานการจ้างงานดังกล่าวยังมีสิ่งบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 249,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 210,000 ตำแหน่ง และปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค. สู่ระดับ 648,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 546,000 ตำแหน่ง
FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 80% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการ QE