ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (8 ก.พ.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นทะลุ 1.96% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.25% สู่ระดับ 95.64000 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.5380 เยน จากระดับ 115.06 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา 1.2713 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2664 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.9254 ฟรังก์ จากระดับ 0.9255 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.1418 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1457 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3543 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3538 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.965% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 8.07 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.30 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 7.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.6% สู่ระดับ 3.089 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.5% สู่ระดับ 2.281 แสนล้านดอลลาร์
นอกเหนือจากดัชนี CPI แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน