ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยได้อานิสงส์จากคำสั่งซื้อในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อวิกฤตการณ์ในยูเครน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ณ เวลา 23.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.88% สู่ระดับ 98.65 ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 2.02% สู่ระดับ 125.16 เยน และร่วงลง 1.32% สู่ระดับ 1.092 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ร่วงลง 0.63% สู่ระดับ 114.73 เยน
ยูโรดิ่งลงในวันนี้ต่ำกว่าระดับ 1.10 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ท่ามกลางความกังวลที่ว่าสงครามในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรป
ขณะเดียวกัน ยูโรยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
นักลงทุนยังคงจับตาวิกฤตการณ์ในยูเครน หลังมีรายงานการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน
อย่างไรก็ดี นายราฟาเอล มาริเอโน กรอสซี ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เปิดเผยว่า เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน ไม่ได้รับความเสียหายจากการถูกรัสเซียโจมตี และไม่มีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียถือเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป
นายกรอสซีกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มอาคารฝึกอบรมแห่งหนึ่ง แต่อาคารที่มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ได้ถูกโจมตีแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายกรอสซียังเปิดเผยว่า ทหารรัสเซียได้เข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว แต่ก็ยังคงให้เจ้าหน้าที่ของยูเครนปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้าต่อไป
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 678,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 440,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 481,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 467,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 588,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 510,000 ตำแหน่ง