นายโมฮัด ชาฮาร์ อับดุลเลาะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซียได้เข้าชี้แจงต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ว่า มาเลเซียไม่มีความตั้งใจที่จะยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นสกุลเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
"คริปโทเคอร์เรนซี เช่น บิตคอยน์ ไม่เหมาะสมที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการชำระหนี้ตามกฎหมาย เนื่องจากมีข้อจำกัดต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงราคาที่ผันผวน และมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีทางไซเบอร์" นายโมฮัด ชาฮาร์กล่าว
คำชี้แจงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีคนหนึ่งของมาเลเซียได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้บิตคอยน์และคริปโทเคอร์เรนซีอื่น ๆ สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจคริปโทฯ
ทั้งนี้ นายโมฮัด ชาฮาร์กล่าวว่า "ภูมิทัศน์ด้านเทคโนโลยีและการชำระเงินที่ขยายตัวขึ้นนั้น ได้ผลักดันให้ธนาคารกลางมาเลเซียต้องเร่งประเมินแนวโน้มสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)"
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายซาฮิดี ไซนุล อาบิดิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซียได้กล่าวในรัฐสภาว่า มาเลเซียควรอนุญาตให้นำบิตคอยน์และคริปโทฯ สกุลอื่น ๆ มาใช้ในการชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางมาเลเซียยังไม่เคยประกาศว่าจะอนุญาตให้นำบิตคอยน์มาใช้เพื่อการชำระหนี้ตามกฎหมาย โดยธนาคารกลางได้เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางกำลังประเมินว่าสมควรที่จะออกสกุลเงิน CBDC หรือไม่ นอกจากนี้ ธนาคารกลางมาเลเซียไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคำกล่าวของนายซาฮิดี
นับจนถึงขณะนี้ มีเพียงเอลซัลวาดอร์เพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่อนุญาตให้ใช้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความเห็นของบริษัทเอกชนซึ่งจัดทำโดยหอการค้าเอลซัลวาดอร์ในเดือนนี้พบว่า มีการทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์เพียง 14% เท่านั้นนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 ซึ่งเป็นเดือนที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์อนุญาตให้ใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย