ดอลลาร์ปรับตัวแคบเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 00.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.01% สู่ระดับ 98.78 ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.37% สู่ระดับ 134.0 เยน และอ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 1.099 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ร่วงลง 0.31% สู่ระดับ 121.95 เยน
ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.และมิ.ย.
ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค. และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมทุกครั้งหลังจากนั้นถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 76.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 32.9% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป ซึ่งหากจำเป็น เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมหนึ่งครั้งหรือหลายครั้ง
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ความเห็นของนายวอลเลอร์สอดคล้องกับนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ซึ่งกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 12 ครั้งในปีนี้ เพื่อแสดงว่าเฟดมีความจริงจังในการต่อสู้กับเงินเฟ้อซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
นายบูลลาร์ดกล่าวว่า เขาต้องการให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่สูงกว่า 3% จากระดับใกล้ 0% ในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ นายบูลลาร์ดเป็นเจ้าหน้าที่เฟดเพียงรายเดียวที่ลงมติให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2561