ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.13% สู่ระดับ 100.06 ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.41% สู่ระดับ 135.86 เยน และร่วงลง 0.24% สู่ระดับ 1.086 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์อ่อนค่า 0.13% สู่ระดับ 125.19 เยน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524 และใกล้เคียงตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.4%
นอกจากนี้ ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2525 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.ตามที่ตลาดคาดไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพรุ่งนี้