ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งเทียบดอลล์ นักลงทุนจับตาประชุม ECB วันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 14, 2022 07:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (13 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ รวมทั้งจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.42% แตะที่ 99.8750 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0889 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0834 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3110 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3007 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7447 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7461 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงิน ที่ระดับ 125.60 เยน จากระดับ 125.28 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9341 ฟรังก์ จากระดับ 0.9320 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2568 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2634 ดอลลาร์แคนาดา

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้

ECB เปิดเผยในรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ว่า สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน และเป็นสาเหตุที่ทำให้ ECB มีความระมัดระวังเรื่องการตัดสินใจที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารของ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

นอกจากนี้ ในการประชุมวันดังกล่าว ECB ยังประกาศว่าจะลดการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) สู่ระดับ 4 หมื่นล้านยูโรในเดือนเม.ย., 3 หมื่นล้านยูโรในเดือนพ.ค. และ 2 หมื่นล้านยูโรในเดือนมิ.ย. ส่วนการซื้อพันธบัตรหลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ ECB ได้รับ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 11.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำดัชนี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 10.6%

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนมี.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนเม.ย.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ