ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขานรับคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.
ณ เวลา 18.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.27% สู่ระดับ 100.85 ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.21% สู่ระดับ 138.80 เยน และร่วงลง 0.13% สู่ระดับ 1.082 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์อ่อนค่า 0.08% สู่ระดับ 128.28 เยน
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ สอดคล้องกับการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งทะลุ 3% และทำให้เกิดภาวะ inverted yield curve ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 2.934% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีอยู่ที่ 2.948%
ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในเวลาเพียงไม่กี่ปีถัดมา
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543