ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (26 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจและผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.54% แตะที่ 102.3050
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9623 ฟรังก์ จากระดับ 0.9590 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2799 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2729 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 127.58 เยน จากระดับ 128.01 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0647 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0714 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2589 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2734 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7147 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7168 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งได้เข้าสู่เดือนที่ 3 ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เตือนว่า วิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครนอาจลุกลามกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์
ขณะเดียวกันดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังมีการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากรมากถึง 25 ล้านคน รวมทั้งปิดกั้นพื้นที่บางส่วนของกรุงปักกิ่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 8.6% สู่ระดับ 763,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 765,000 ยูนิต จากระดับ 835,000 ยูนิตในเดือนก.พ. โดยยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5%