ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งเหนือระดับ 103 แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2560
ส่วนยูโรอ่อนค่าลง ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจของยุโรปจะถูกกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 23.33 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.9% สู่ระดับ 128.37 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 135.52 เยน และร่วงลง 0.76% สู่ระดับ 1.056 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.62% สู่ระดับ 102.94 หลังจากแตะระดับ 103.15 ก่อนหน้านี้
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรป หลังจากที่รัสเซียระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้แก่โปแลนด์และบัลแกเรีย เนื่องจากไม่ได้ชำระค่าก๊าซเป็นเงินสกุลรูเบิล
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
ตลาดยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ