ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าต่อเนื่อง รับคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 29, 2022 07:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (28 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค. ขณะที่เงินเยนร่วงลงอย่างหนัก หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินผ่อนคลายแบบพิเศษในการประชุมวานนี้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.65% แตะที่ 103.6240 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 130.88 เยน จากระดับ 128.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9719 ฟรังก์ จากระดับ 0.9683 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2806 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2832 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0509 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0563 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2462 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2541 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7095 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7121ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. และมีแนวโน้มว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ส่วนเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี หลังจาก BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ขณะเดียวกัน BOJ ย้ำว่าจะเดินหน้าคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น เกิดจากปัจจัยชั่วคราว

นอกจากนี้ BOJ ระบุว่า จะยังคงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกวันทำการ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือเพดานที่ BOJ กำหนดไว้

ความมุ่งมั่นดังกล่าวของ BOJ บ่งชี้ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐจะทิ้งห่างกันมากขึ้น และจะยิ่งทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก ในขณะที่เฟดได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้งเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 หดตัว 1.4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 1.1% และเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 180,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ