นายไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอของบริษัทคอยน์เบส (Coinbase) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีเปิดเผยว่า แม้ผลประกอบการของคอยน์เบสออกมาย่ำแย่ในไตรมาส 1/2565 แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทกำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะล้มละลาย พร้อมกับยืนยันว่า การดำเนินงานของบริษัทสอดคล้องกับข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐมาโดยตลอด
คอยน์เบสเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1 ลดลง 27% เมื่อเทียบรายปี และมียอดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 430 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ จำนวนผู้ใช้งานรายเดือนบนแพลตฟอร์มคอยน์เบสปรับตัวลงสู่ระดับ 9.2 ล้านรายในไตรมาส 1 จากระดับ 11.4 ล้านรายในไตรมาส 4/2564 ส่วนวอลุ่มการซื้อขายโดยรวมลดลงมาอยู่ที่ 3.09 แสนล้านดอลลาร์ จากไตรมาส 4 ที่ระดับ 5.47 แสนล้านดอลลาร์
นายอาร์มสตรองกล่าวว่า ผลประกอบการที่อ่อนแอในไตรมาส 1 อาจทำให้นักลงทุนเชื่อว่า การถือเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีบนแพลตฟอร์มของบริษัทอาจจะมีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของนักลงทุน แต่คอยน์เบสมั่นใจว่า บริษัทไม่ได้เผชิญกับความเสี่ยง และแม้ว่าจะยังคงมีความเป็นไปได้ ก็ไม่มีแนวโน้มที่ศาลจะพิจารณาให้รวมสินทรัพย์ของลูกค้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในกระบวนการล้มละลาย
"คอยน์เบสจะดำเนินการในขั้นต่อไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ลูกค้ารายย่อยของบริษัทจะได้รับการคุ้มครอง โดยเราจะอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขของลูกค้ารายย่อยในไม่ช้านี้ ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่ได้สื่อสารอย่างจริงจังว่า เมื่อใดที่ควรจะเปิดเผยเกี่ยวกับความเสี่ยง ซึ่งผมขออภัยในเรื่องนี้" นายอาร์มสตรองกล่าว
การแสดงความเห็นของนายอาร์มสตรองมีขึ้น หลังจากคอยน์เบสเปิดเผยรายงานว่า กรณีที่บริษัทเกิดล้มละลายนั้น สินทรัพย์ในรูปคริปโทเคอร์เรนซีที่ถือครองโดยคอยน์เบสนั้น จะถูกพิจารณาให้เป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในกระบวนการล้มละลาย และลูกค้าของบริษัทจะได้รับการปฏิบัติในฐานะเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน
ทั้งนี้ สถานะเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันจะเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลสุดท้ายที่จะได้รับเงินคืนในกรณีที่บริษัทล้มละลาย และอยู่ในกลุ่มสุดท้ายที่จะสามารถเรียกร้องเงินคืน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ ราคาหุ้นคอยน์เบสร่วงลงแล้ว 71% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงราคาคริปโทเคอร์เรนซีหลัก ๆ ที่ทรุดตัวลง เช่น บิตคอยน์