นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ว่า การทรุดตัวลงอย่างหนักของราคาเหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST ถือเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า สเตเบิลคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเสี่ยง
นางเยลเลนได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า ราคาเหรียญ UST ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องนั้น สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของเหรียญโทเคนที่ตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการออกกฎข้อบังคับใหม่ ๆและยืนยันว่ากระทรวงการคลังสหรัฐกำลังตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
"แม้ว่าขณะนี้ดิฉันยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าสเตเบิลคอยน์มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน แต่สิ่งที่เห็นในขณะนี้คือสเตเบิลคอยน์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่คล้ายกับกระแสการแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร (Bank Run)" นางเยลเลนกล่าว
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังเสนอให้รัฐบาลเร่งออกสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) โดยเธอแนะนำให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเป็นผู้ดำเนินการโดยตรงกับผู้ใช้งาน CBDC แทนที่จะเป็นหน่วยงานของรัฐบาล
"เรามีหลากหลายทางเลือก และในทางเลือกเหล่านั้นก็มีปัญหารวมอยู่ด้วย ดิฉันจึงคิดว่า ความเป็นส่วนตัวก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ หากธนาคารกลางจะออกสกุลเงิน CBDC โดยตรงให้กับผู้บริโภค" นางเยลเลนกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวันพุธ (11 พ.ค.) นางเยลเลนได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการด้านการธนาคาร, การเคหะและการดูแลเขตเมืองของสหรัฐ โดยแนะนำให้สภาคองเกรสสหรัฐเร่งออกกฎระเบียบเพื่อกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ หลังจากเหรียญ UST ถูกกระหน่ำขายอย่างหนักจนไม่สามารถผูกติดมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์ได้
การแสดงความเห็นของนางเยลเลนมีขึ้น หลังจากเกิดแรงเทขายอย่างหนักในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีลดลงกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) เพียงวันเดียว
นักลงทุนแห่เทขายคริปโทเคอร์เรนซีในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอยลง รวมทั้งแรงกดดันจากการที่ราคาเหรียญ UST ทรุดตัวลงจนหลุดมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 30 เซนต์ในวันพุธ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐทำการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี โดยมุ่งเน้นไปที่การประเมิน 6 ประเด็นซึ่งได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน, เสถียรภาพด้านการเงิน, การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย, ความสามารถด้านการแข่งขันของสหรัฐในตลาดโลก, โอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน และนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบ